สิ่งแวดล้อม
เราเชื่อมั่นว่าการเติบโตของธุรกิจต้องควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เราจึงมุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อลดผลกระทบต่อโลกในทุกมิติ ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง และได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 ครอบคลุม 100% ของสถานที่ดำเนินงานในประเทศไทย ทั้งโรงงานบางนาและสำโรง เพื่อสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ทำให้ในช่วงปี 2564 - 2567 ไม่มีการเกิดอุบัติการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมหรือค่าปรับใดๆ ผลการดำเนินงานที่สำคัญ สรุปดังนี้
บริษัทฯ เล็งเห็นว่าการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนการผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืนของประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนและเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ต่อยอดแนวคิดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้วยแนวคิด TOA Greenovation ที่ลดความยุ่งยากในการทำงานสี โดยไม่ลดทอนคุณภาพและการรักษาสิ่งแวดล้อม สู่การพัฒนานวัตกรรม “TOA Shield Expert” สีน้ำแบบพร้อมใช้งาน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการทดลองและทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานจริง นอกจากนี้ได้จัดกิจกรรม “TOA Super OKRs Challenge” เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการสร้างสรรค์ โดยมีพนักงานเข้าร่วม 136 คน จากทุกสายงาน และมีผลงานเกิดขึ้น 29 ผลงาน

TOA Shield Expert

TOA Super OKRs Challenge
การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ถือเป็นวิกฤตการณ์ที่มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ ด้วยตระหนักถึงความสำคัญ บริษัทฯ จึงได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเริ่มจากการกำหนดนโยบาย การประเมินผลกระทบด้านความหลากหลายทางชีวภาพ โดยใช้เครื่องมือ ENCORE (Exploring Natural Capital Opportunities, Risks and Exposure) และ IBAT (Integrated Biodiversity Assessment Tool) เพื่อนำมากำหนดแนวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับขั้น (Mitigation Hierarchy) และการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติผ่านเครือข่ายความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย ภายใต้โครงการ “TOA รักเรา รักษ์โลก ฟื้นคืนผืนป่าและระบบนิเวศอย่างยั่งยืน” ซึ่งดำเนินการฟื้นฟูและปลูกป่าเพิ่มเติมจำนวน 1,740 ไร่ จนได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากกรมป่าไม้ ในฐานะ “ผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้ สาขาการฟื้นฟูและพัฒนาทรัพยากรป่าไม้” ประจำปี 2567

โครงการ “TOA รักเรา รักษ์โลก ฟื้นคืนผืนป่าและระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
บริษัทฯ มุ่งมั่นยกระดับสมรรถนะการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยยึดมั่นตามมาตรฐานสากลด้านการจัดการพลังงาน ISO 50001 พร้อมกำหนดนโยบายพลังงานและแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพตามเป้าหมาย
บริษัทฯ ดำเนินการผ่าน 2 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งในปี 2567 สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 2,088,138 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ปี หรือลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ 926 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

การติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีความรับผิดชอบต่อสังคม จึงได้วางแนวทางการบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมือกับความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจในการดำเนินงาน โดยจัดตั้งทีมบริหารจัดการน้ำเพื่อตรวจสอบการใช้น้ำอย่างสม่ำเสมอ

บริษัทฯ ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพเพื่อนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ภายในองค์กร ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาระบบจ่ายน้ำและส่งเสริมการใช้น้ำอย่างประหยัด ซึ่งในปี 2567 เราสามารถนำน้ำเสียกลับมาใช้ประโยชน์ได้ถึง 10,212.60 ลูกบาศก์เมตร และด้วยการบำบัดน้ำเสียแบบนาโนฟิลเตรชั่น (Nanofiltration) ทำให้ค่าความสกปรกของน้ำ (COD) ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดถึงร้อยละ 50
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการจัดการของเสียและขยะอย่างยั่งยืน เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมโลกจากผลกระทบของการจัดการที่ไม่ถูกวิธี บริษัทฯ จึงกำหนดเป้าหมายระยะยาวให้ปริมาณขยะที่เข้าสู่กระบวนการฝังกลบเป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill) ภายในปี 2573 โดยใช้หลัก Waste Management Hierarchy และส่งเสริมพฤติกรรมพนักงานในการลดและจัดการขยะอย่างเหมาะสม อาทิ การนำเครื่องแบบเก่า 544 ชิ้น มารีไซเคิลเป็นเครื่องแบบใหม่ 465 ชิ้น และการนำชิ้นส่วนจากงานสถาปนิก’67 ไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษา

การนำเครื่องแบบพนักงานที่ไม่ได้ใช้งานแล้วมารีไซเคิลเป็นเครื่องแบบใหม่
นอกจากนี้ บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์และการจัดการวัสดุหลังการใช้งานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง จึงร่วมมือกับพันธมิตรจัดทำโครงการต่างๆ เช่น "โครงการแลกเก่าเพื่อโลกใหม่" กับโฮมโปรและเมกาโฮม ที่ให้ลูกค้านำถังสีเก่ามาแลกส่วนลดซื้อสินค้าใหม่ และ "โครงการฝ้ายิปซัม รักษ์โลก" ร่วมกับบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งสามารถนำเศษวัสดุฝ้ากลับมาแปรรูปใหม่ได้ถึงร้อยละ 13.26 ช่วยลดของเสียได้กว่าร้อยละ 10 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 2.50 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตารางเมตร

โครงการแลกเก่าเพื่อโลกใหม่

โครงการฝ้ายิปซัม รักษ์โลก

โครงการฝ้ายิปซัม รักษ์โลก
บริษัทฯ ยึดมั่นในการจัดการคุณภาพอากาศอย่างเข้มงวด เพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศที่เกิดจากกระบวนการผลิต โดยให้ความสำคัญกับการตรวจวัดคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่ปฏิบัติงานและบริเวณปล่องระบายอากาศ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมาใช้จัดการมลพิษที่แหล่งต้นกำเนิด เช่น การเพิ่มความถี่ในการเปลี่ยนไส้กรองอากาศ การเปลี่ยนทิศทางการระบายอากาศ การปรับเปลี่ยนการผลิตเป็นระบบปิด และการติดตั้งระบบกรองอากาศเฉพาะจุด เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพอากาศเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ส่งผลให้ในปี 2567 ไม่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับคุณภาพอากาศจากชุมชนโดยรอบอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

การปรับเปลี่ยนการผลิตให้เป็นระบบปิด

การติดตั้งระบบกรองอากาศเฉพาะจุด