สอบถามข้อมูลนักลงทุน

สอบถามข้อมูลนักลงทุน

คำถามที่พบบ่อย

TOA มีความได้เปรียบทางการแข่งขันเมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์ระดับสากล (International Brand) อย่างไร
  • TOA เป็นบริษัทฯ ที่มีการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีก ผลิตภัณฑ์สีทาอาคารและผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวและผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ที่ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยสัดส่วนทางการตลาดที่สูงถึง 48.7% และนอกจากช่องทางการจัดจำหน่ายภายในประเทศที่แข็งแกร่ง เรายังมีฐานการผลิตที่ครอบคลุมเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ด้วยสัดส่วนทางการตลาด 13.0% ซึ่งเป็นเวลากว่า 57 ปีแล้วที่ TOA เป็นผู้นำในตลาดสีและสารเคลือบผิว ด้วยตราสินค้าและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียง จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน
  • เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมียม ผลิตภัณฑ์เกรดปานกลาง ถึงเกรดอีโคโนมี่ และผลิตภัณฑ์สีทาอาคารอื่น ทำให้บริษัทฯ สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในทุกช่องทาง ตั้งแต่ช่องทางค้าปลีก งานโครงการ และสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม
  • นอกจากนี้ ในปี 2564 เราได้เดินหน้าขยายธุรกิจไปยังกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ในการเข้าสู่ธุรกิจการจัดจำหน่ายกระเบื้อง โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญบริษัท ภชา เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด และบริษัท ภาวตี อินเตอร์เทรด จำกัด ในสัดส่วน 52% และยังร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจก่อตั้งบริษัท อินโคซอร์ส จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ในสัดส่วน 55% ซึ่งคาดว่ารายได้จากทั้ง 3 ธุรกิจดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเรา นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 เราได้เข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 51% ของบริษัท ยิปมั่นเทค จำกัด ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการเติบโตและความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจยิปซั่มบอร์ด และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องยิปซั่มบอร์ด โดยสามารถดำเนินธุรกิจในส่วนดังกล่าวได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของบริษัทฯ ที่เป็นมากกว่าสีทาอาคาร (Growing Beyond Colors)
  • เรามีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย พร้อมทั้งการจัดหาวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ที่ค้าขายกันมาอย่างยาวนาน การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา ทำให้สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าและคุณภาพสูงขึ้นในราคาที่สามารถแข่งขันได้ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีเครื่องผสมสีอัตโนมัติ (Auto Tinting Machine) ในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของทิศทางในการออกแบบและความพึงพอใจของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น และในฐานะผู้นำตลาดสีทาอาคารและสารเคลือบผิวอันดับหนึ่งของประเทศ ทำให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในการแข่งขันและได้ประโยชน์จากประหยัดจากขนาด (economies of scale)
  • พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งด้านการวิจัย และพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์
  • เราได้ออกแบบโมเดลธุรกิจแพลตฟอร์มใหม่ เพื่อตอบโจทย์การเป็น “Total Solution” จากการพัฒนาช่องทางการขาย พัฒนาศักยภาพของทีมบริการ และพัฒนาคุณภาพของสินค้าอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าทุกคนเชื่อมั่นได้ว่าจะได้รับการบริการที่ดี และผลงานเป็นที่น่าพึงพอใจ เราจึงเดินหน้าขยายธุรกิจให้ครอบคลุม “โซลูชั่นแบบครบวงจร (Total Solution)” เพื่อสร้างความง่าย ความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และการเพิ่มกลยุทธ์ Pull Service คือ การมุ่งตอบสนองผู้บริโภคด้วยสินค้าและบริการมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างซึ่งครอบคลุม พื้น ฝ้า ผนัง งานสีทาอาคารทั่วไป งานสีสร้างลายเพื่อการตกแต่ง งานซ่อมแซมปรับปรุงบ้านเข้ามา ทำให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นช่างมืออาชีพและลูกค้าประเภทซื้อสินค้าด้วยตัวเอง (“Buy It Yourself” หรือ “BIY”) มากขึ้น

    นอกจากนี้ การเพิ่มช่องทางบริการที่หลากหลายแบบ One Stop Service ทั้งบริการงานช่างมาตรฐานใหม่ WHO Service ที่เชื่อมโยงกับโมเดลธุรกิจใหม่ MEGA PAINT & HOME ที่จะเป็นศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและบริการแบบครบวงจร, ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหารั่ว ซึม ร้าว Protect & Repair Center, บริการออกแบบสีบ้าน TOA Ide@Color และการบริการให้คำปรึกษาการใช้งานผลิตภัณฑ์

เรามีจำนวนโรงงานผลิต ทั้งสิ้น 10 โรงงาน ดังนี้

  • 3 โรงงาน ในประเทศไทย
  • 7 โรงงานในต่างประเทศ ในประเทศเวียดนาม, พม่า, ลาว, มาเลเซีย อินโดนีเซีย ประเทศละ 1 โรงงาน และกัมพูชา 2 โรงงาน (รวมถึงโรงงานผลิตสกิมโค้ด)

เรามุ่งมั่นในการขยายความแข็งแกร่งของแบรนด์สินค้า จากความสำเร็จอย่างมากในประเทศไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ Decorative และ Non-Decorative ที่ได้มาตรฐานและเป็นที่รู้จัก ออกสู่ประเทศสมาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยตั้งเป้าหมายการเป็นบริษัทผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ Decorative และ Non-Decorative ด้วยกลยุทธ์ “การเติมเต็มนวัตกรรมแบบครบวงจร” หรือ “Total Solution”

ณ สิ้นปี 2564 เรามีจำนวนผู้ค้าปลีกในประเทศไทยเป็นจำนวนมากกว่า 7,400 ร้านค้า

ในประเทศไทย ยอดขายของจังหวัดกรุงเทพฯ สูงกว่ายอดขายเฉลี่ยของต่างจังหวัด

วัตถุดิบในการทำสีที่สำคัญได้แก่ TIO2, ตัวทำละลาย, Resin และ Latex โดยราคาของ TIO2 จะเปลี่ยนแปลงไปตามราคาของ TIO2 ที่ซื้อขายกันในตลาดโลก ขณะที่ ตัวทำละลาย, Resin และ Latex เป็นวัตถุดิบที่ correlation กับราคาน้ำมัน จึงมีความเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันในตลาดโลก

ในปี 2022 เราตั้งไว้ 700 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน อาทิ การปรับปรุงโรงงานที่สำโรงให้ทันสมัยและมีความ automation มากขึ้น ธุรกิจฮาร์ดแวร์ การขยายกำลังการผลิต Resin และขยายศูนย์กระจายสินค้า (DC) ในประเทศเวียดนาม และอีกจำนวน 800 ล้านบาท ที่ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท ยิปมั่นเทค จำกัด เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565

เรามีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40.0 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนดไว้ในแต่ละปี ทั้งนี้บริษัทฯจะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆเพื่อผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นเป็นหลัก

เราบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการผลิต และขึ้นราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น